จุดพลิกผันการเข้าสู่ยุครถอัตโนมัติเชิงพาณิชย์

google-car-fleet

หลังจากที่ Google ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยีรถไร้คนขับ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า เทคโนโลยีรถไร้คนขับทำให้ค่าใช้จ่ายในการใช้รถถูกลงได้อย่างไร และเมื่อไหร่ที่รถไร้คนขับจะถูกวางขายในเชิงพาณิชย์  ระยะหลังนี้เราได้เห็นการกระโดดลงมาร่วมวงรถไร้คนขับของบริษัทรถยนต์รายใหญ่หลายเจ้า และแสดงความเชื่อมันว่าภายใน 10 – 15 ปี รถไร้คนขับจะมาโลดแล่นบนท้องถนนได้ Cisco ได้คาดการณ์ว่าในอีก 5 – 7 ปี ค่าใช้จ่ายในการขับรถเองจะสูงกว่าการให้รถขับเคลื่อนอัตโนมัติ

ทำไมรถอัตโนมัติจะถูกกว่ารถธรรมดา ในการครอบครองรถยนต์คันหนึ่ง นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายในการซื้อรถตอนแรกแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอีก 2 อย่างที่ตามมาด้วย คือ ค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุ และค่าใช้จ่ายในการใช้งาน ค่าใช้จ่ายจากอุบัติเหตุมาจาก ค่ารักษาทางการแพทย์และค่าเบี้ยประกัน ในสหรัฐอเมริกา ความเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มีมูลค่าถึง 15 ล้านล้านบาทต่อปี นั่นเป็นมูลค่าที่สูงมากเพื่อที่จะให้มนุษย์ขับรถ

ถ้าตัดมนุษย์ออกจากการควบคุมรถ การขับขี่จะปลอดภัยมากขึ้น บริษัทประกันจะสามารถลดเบี้ยประกันลงได้ จุดนี้เองเป็นหน้าที่ของนักวิจัยที่ต้องพิสูจน์และทำให้ผู้คนโดยทั่วไปเชื่อมั่นว่ารถไร้คนขับจะปลอดภัยกว่ารถที่ใช้คนขับ อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายจากอุบัตเหตุคือ ในกรณีที่อุบัติเหตุไม่สามารถเลี่ยงได้ รถไร้คนขับจะสามารถถูกโปรแกรมให้ตัดสินใจได้ว่าควรจะทำอย่างไรให้ลดความสูญเสียให้ได้มากที่สุด เช่น เลือกคนเด็กหรือคนแก่

รถไร้คนขับของ Google มีราคาสูงกว่ารถทั่วไปถึงกว่า 8 ล้านบาท แต่เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ราคารถไร้คนขับน่าจะแพงกว่ารถยนต์ทั่วไปประมาณ 3 แสนบาท ด้วยค่าใช้จ่ายตั้งต้นที่แพงกว่า ผู้ครอบครองรถไร้คนขับกลุ่มแรก ๆ น่าจะเป็นกลุ่มที่มีฐานะดี

แต่หากพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายในการใช้งานรถยนต์แล้ว การใช้งานรถไร้คนขับจะน่าดึงดูดขึ้นมาก ในสหรัฐ ฯ ค่าใช้จ่ายต่อปีสำหรับครอบครองรถจะอยู่ที่ประมาณ 280,000 บาท หากรถไร้คนขับปลอดภัยขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อปีจะสามารถลดลงได้เหลือประมาณ 220,000 บาท เมื่อเทียบค่าใช้จ่ายต่อปีที่ลดลงเมื่อเทียบกับคนรถที่แพงขึ้นแล้วจะได้ว่าจุดคุ้มทุนอยู่ที่ประมาณ 6 ปี

คนทั่วไปใช้รถยนต์เพียง 5% ของเวลาทั้งหมด หากผู้คนเปลี่ยนวิธีการเป็นเจ้าของรถยนต์เป็นการร่วมกันเป็นเจ้าของรถยนต์แล้ว เช่น แบ่งกันใช้ 3 คน จุดคุ้มทุนจะลดลงเหลือแค่ 2 ปีเท่านั้น

อีกประเด็นหนึ่งที่จะทำให้รถไร้คนขับน่าดึงดูดมากขึ้นคือ ถ้ารถไร้คนขับสามารถวิ่งมารับผู้โดยสารได้เอง วิ่งไปส่งผู้โดยสารที่ปลายทางได้เอง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่ผู้คนจะต้องซื้อรถเป็นของตัวเอง Columbia University ได้ประเมินว่าค่าแทกซี่ในนิวยอร์คจะลดลงจากประมาณ 80 บาทต่อกิโลเมตรเหลือเพียง 10 บาทต่อกิโลเมตรเท่านั้นหากเปลี่ยนจากแทกซี่ที่ใช้คนขับเป็นแทกซี่ไร้คนขับ

IHS คาดการณ์ว่าภายในปี พ.ศ. 2568 จะมีรถไร้คนขับบนท้องถนน 230,000 คัน และในปี พ.ศ. 2578 จะมีสูงถึง 12 ล้านคัน

ยุคที่รถไร้คนขับจะวิ่งบนท้องถนนใกล้เข้ามาแล้ว น่าตื่นเต้นจริง ๆ

ภาพและที่มา Mashable

LINE it!