อะไรเป็นแรงผลักดันการปฏิวัติวงการหุ่นยนต์อุตสาหกรรมในจีน

China_Robot_Sales_Financial_times

นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้ประกาศเดินหน้า “ปฏิวัติวงการหุ่นยนต์อุตสาหกรรม” ในจีนเมื่อปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อมาตรการตอบสนองต่อเนื่องในด้านการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และการให้เงินสนับสนุนบริษัทผลิตหุ่นยนต์และบริษัทที่ใช้หุ่นยนต์ในกิจการภายในบริษัท ด้วยระยะเวลาคืนทุนที่สั้นลง แรงงานในภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง และนโยบายข้างต้น จะเป็นแรงผลักดันทำให้จีนเติบโตในธุรกิจหุ่นยนต์อุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว

หนังสือพิมพ์ Financial Times รายงานว่า นักวิเคราะห์ได้ประมาณการณ์ระยะเวลาคืนทุนของธุรกิจการผลิตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมโดยใช้ข้อมูล 10 วัฏจักรชีวิตธุรกิจ (life cycle) ว่ามีระยะเวลาเท่าใด ผลปรากฏว่า ระยะคืนทุนสำหรับปี ค.ศ. 2015 อยู่ที่ 1.7 ปี ลดลงจากปี ค.ศ. 2008 ที่ 11.8 ปี และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องเป็น 1.3 ปี ในปี ค.ศ. 2016

สองปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้มีการใช้งานหุ่นยนต์มากขึ้น คือ 1) นโยบายสร้างความจำเป็นในการนำหุ่นยนต์มาใช้งานของรัฐบาล (ส่งเสริมการซื้อ) และ 2) ระยะเวลาคืนทุนในธุรกิจผลิตหุ่นยนต์ที่สั้นลง (ส่งเสริมการผลิตขาย) หากนำสองปัจจัยนี้มารวมกับสถานการณ์การหดตัวลงของตัวเลขกลุ่มประชากรในวัยทำงานและจำนวนแรงงานในภาคการผลิตที่ลดลงด้วย ก็จะส่งผลต่อแรงผลักดันต่อการทำหุ่นยนต์เข้ามาใช้มากขึ้นไปอีก ผลต่อเนื่องคือ ยอดขายหุ่นยนต์ในจีนก็จะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

อนึ่ง เหตุผลที่ทำให้แรงงานในภาคการผลิตลดจำนวนลงคือ คนจีนมีการศึกษาสูงขึ้น และคนกลุ่มนี้ก็เลือกที่จะไม่ทำงานเป็นแรงงานในโรงงานอีกต่อไป เนื่องด้วยค่าจ้างต่ำและต้องทำงานหนัก

เมื่อไม่นานมานี้ มีสองงานวิจัย จัดทำโดย Research in China and Huidian พิสูจน์ว่า ความต้องการหุ่นยนต์อุตสาหกรรมการผลิตกำลังเติบโตขึ้น ตั้งแต่อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไปถึงคราฟต์เบียร์ (craft beer คือ เบียร์ทำมือ ไม่ใช่เบียร์อุตสาหกรรม) นอกจากนี้ในงานวิจัยยังได้ทำนายไว้ว่า จีนจะมีหุ่นยนต์อุตสาหกรรมใช้ในโรงงานมากกว่าสหภาพยุโรป หรือ อเมริกาเหนือ และยอดขายหุ่นยนต์อุตสาหกรรมทั่วโลกจะเติบโตจาก 200,000 ตัว ไปเป็น 400,000 ตัว ภายในปี ค.ศ. 2017

ที่มา – Robohub

LINE it!