งานใหม่มาแรงย่าน Silicon Valley เป็นผู้ช่วยให้หุ่นยนต์

robo-assistant

ในขณะที่หลาย ๆ คนกลัวหุ่นยนต์มาแย่งงาน หุ่นยนต์เองกลับสร้างงานใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน อาชีพใหม่อาชีพหนึ่งที่กำลังเป็นที่ต้องการในหมู่สตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีคือ การเป็นผู้ช่วยหรือผู้ฝึกสอนให้ปัญญาประดิษฐ์

Facebook กำลังทดสอบบริการ M ผู้ช่วยอัจฉริยะผ่านทางระบบแชท Messenger ผู้ใช้สามารถขอข้อมูล จองโรงแรม เที่ยวบิน หรือโต๊ะอาหารได้ด้วยการแชทกับ M ถ้าอยากได้ผู้ช่วยอย่างเป็นทางการหน่อย Clara Labs ก็ให้บริการผู้ช่วยอัจฉริยะผ่านอีเมล เพียงแค่เพิ่ม Clara ลงในที่อยู่อีเมลที่สนทนาอยู่ Clara ก็สามารถจัดการนัดหมายให้คุณได้ หรือถ้าคุณเป็นหน่วยงานที่ต้องการระบบ call center อัจฉริยะ Interactions ก็สามารถบริการให้คุณได้ ขณะนี้ระบบของ Interactions ให้บริการกับลูกค้าของบริษัทประกัน และบริษัทสาธารณูปโภคอยู่

แต่ก็ใช่ว่าผู้ช่วยอัจฉริยะในยุคดิจิตอลนี้จะเก่งกาจจัดการให้คุณได้ทุกเรื่อง หลายครั้งที่ AI เหล่านี้เจอคำถามหรือคำร้องขอที่ยากและไม่สามารถตอบสนองได้ ตรงนี้เองที่ผู้ฝึกสอน AI หรือผู้วิเคราะห์เจตนาผู้ใช้บริการ (intent analyst) เข้ามามีบทบาท ผู้ฝึกสอนอาจจะมีหน้าที่ตั้งแต่ดำเนินการสนทนาแทน AI เลย หรือบอกให้ AI ทราบว่าจริง ๆ แล้วผู้ใช้บริการต้องการอะไร แล้วให้ AI ดำเนินงานต่อ

call center รูปแบบเดิม ๆ ที่รับคำสั่งเฉพาะอย่าง ผู้ใช้ต้องคอยกดเลือกเมนูที่จำกัดไปเรื่อย ๆ สร้างความรำคาญให้ผู้ใช้บริการมาก แต่การให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นมนุษย์มาให้บริการทั้งหมดก็เป็นงานที่ใช้ทรัพยากรมนุษย์อย่างมหาศาล ปัญญาประดิษฐ์ที่ฉลาดพอเพื่อคอยช่วยเหลือ ตอบคำถามจึงเป็นทางออกที่น่าจะดูดี ผู้ฝึกสอน AI นี่เอง ที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา AI ให้ฉลาดขึ้น โดยการสอน หรือทำให้ดูเป็นตัวอย่าง และในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ช่วยตัวสำรอง คอยเสริมเวลาที่ AI ทำงานไม่ได้หรือทำงานผิดพลาด ถ้าถามว่า แล้วเมื่อ AI ฉลาดพอ ผู้ฝึกสอน AI จะตกงานหรือไม่ Alex Lebrun ผู้ดูแลโครงการ M ของ Facebook กล่าวว่า เมื่อ AI ทำสิ่งหนึ่งได้ ก็จะมีสิ่งที่ท้าทายกว่าให้ AI เรียนต่อไปเรื่อย ๆ ดังนั้นคงยังจะมีความต้องการผู้ฝึกสอน AI ไปอีกเรื่อย ๆ

แล้วคุณล่ะ อยากลองทำอาชีพผู้ฝึกสอนปัญญาประดิษฐ์หรือไม่

ภาพและที่มา New Scientist

LINE it!